งานวิชาอังกิด - นิยาย งานวิชาอังกิด : Dek-D.com - Writer
×

    งานวิชาอังกิด

    มะต้องเจือก-*-

    ผู้เข้าชมรวม

    117

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    0

    ผู้เข้าชมรวม


    117

    ความคิดเห็น


    0

    คนติดตาม


    0
    หมวด :  รักอื่น ๆ
    จำนวนตอน :  0 ตอน
    อัปเดตล่าสุด :  2 พ.ย. 54 / 00:00 น.
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

    Verb Tenses
    (Present Tenses )
     
     
    ดังได้กล่าวมาในบท Verb Tense ( Types ) แล้วว่า Verb Tense มีทั้งหมด 12 รูปใน active voice ในบทนี้จะได้กล่าวถึงการใช้  Present tenses  ทั้ง 4 รูปคือ Simple present , Present progressive, Present perfect,และ Present perfect progressive.
    1.Simple Present Tense
    โครงสร้าง    
    Subject + auxiliaryverb ( do ) + main verb ( base )
    ประธาน + กริยาช่วย ( do) + กริยาหลักช่อง 1
    ดังตัวอย่าง
     
    ประธาน
    กริยาหลัก
     
     
    +  บอกเล่า
    I
    am
     
    French.
    You, we, they
    are
     
    French.
    He, she, it
    is
     
    French.
    -  ปฏิเสธ
    I
    am
    not
    old.
    You, we, they
    are
    not
    old.
    He, she, it
    is
    not
    old.
    ? คำถาม
    Am
    I
     
    late?
    Are
    you, we, they
     
    late?
    Is
    he, she, it
     
    late?
    การใช้     ใช้  Simple Present tense เมื่อ
    • เป็นการกระทำ/เหตุการณ์ที่เป็นจริงโดยทั่วไป เช่น
      The Moon
      goes round the Earth.
      Birds
      fly.
      Sugar
      is sweet.
    • เป็นการบรรยายการกระทำ/เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในขณะที่พูด
      John
      waits patiently while Bridget books the tickets.
      He
      needs help right now.
      I
      'm here now.
      The car
      is clean
    • เป็นกระทำที่เกิดขึ้นตลอดเวลา เป็นกิจวัตร ทั้งในอดีต ปัจจุบัน และอนาคต  เช่น
      He
      gets up early every day.
      I
      play football every Sunday.
    • เป็นการกระทำที่กำหนดแน่นอนว่า จะกระทำในอนาคต   โดยใช้ ร่วมกับ adverb หรือ adverbial phrase เช่น
      The doors
      openin 10 minutes.
      John
      arriveson Tuesday.
    มีข้อยกเว้นดังนี้
    • สำหรับประโยคบอกเล่า ( positive ) ปกติจะไม่ใช้กริยาช่วย   ( นอกจากต้องการเน้นเช่น  I do love you )
    • สำหรับประธานเอกพจน์บุรุษที่ 3  ( he, she, it ) เติม  s ที่กริยาหลัก และเติม  es ที่กริยาช่วย
    • สำหรับ verb to be ที่เป็นกริยาหลัก    ปกติจะไม่มีกริยาช่วย แม้ในประโยคปฏิเสธ หรือประโยคคำถาม
    ตามตัวอย่างในตารางต่อไปนี้
     
    ประธาน
    กริยาช่วย
     
    กริยาหลัก
     
    +
    บอกเล่า
    I, you, we, they
     
     
    like
    coffee.
    He, she, it
     
     
    likes
    coffee.
    -
    ปฏิเสธ
    I, you, we, they
    do
    not
    like
    coffee.
    He, she, it
    does
    not
    like
    coffee.
    ?
    คำถาม
    Do
    I, you, we, they
     
    like
    coffee?
    Does
    he, she, it
     
    like
    coffee?
    verb to be ที่เป็นกริยาหลัก    ปกติจะไม่มีกริยาช่วยแม้ในประโยคปฏิเสธ หรือประโยคคำถามดังนี้
    2. Present Progressive ( continuous )
    โครงสร้าง   
    Subject + auxiliaryverb ( be ) + main verb ( base+ ing)
    ประธาน + กริยาช่วย (be ) + กริยาหลักช่อง 1 เติม ing
    ดังตัวอย่าง
     
    ประธาน
    กริยาช่วย
     
    กริยาหลัก
     
    +  บอกเล่า
    I
    am
     
    speaking
    to you.
    + บอกเล่า
    You
    are
     
    reading
    this.
    ปฏิเสธ
    She
    is
    not
    staying
    in London.
    ปฏิเสธ
    We
    are
    not
    playing
    football.
    คำถาม
    Is
    he
     
    watching
    TV?
    คำถาม
    Are
    they
     
    waiting
    for John?
    การใช้ 
    • ใช้กับเหตุการณ์หรือการกระทำที่กำลังดำเนินการอยู่  อาจมี adverb ในรูปคำเดียวหรือกลุ่มคำมาร่วมด้วย เช่น
      The sun
      is shining.
      I
      am having dinner at this moment.
    • ใช้กับเหตุการณ์ในอนาคตอันใกล้ซึ่งคาดว่าจะต้องเกิดแน่นอน โดยมีคำบอกอนาคตร่วมด้วย เป็นการใช้เช่นเดียวกับ  Future Simple
      I
      am taking my exam next month.
      We
      are going to Chiang Mai tomorrow.
    • ใช้กับการกระทำที่เกิดขึ้นในอดีต ถึงปัจจุบันและจะต่อไปในอนาคตเป็นระยะยาว เช่น
      My son
      is working hard this semester.
      I
      am studying to become a doctor.
    • ใช้กับการกระทำที่เกิดซ้ำซาก โดยใช้ร่วมกับ always , constantly เป็นต้น
      I don't like them because they
      are always complaining.
      He
      is constantly talking. I wish he would shut up.

      หมายเหตุ
      ปกติถ้าเราพูด
      I always do something  หมายถึงการทำอย่างนั้นทุกครั้ง  แต่ถ้าใช้ I always doing somthing หมายถึงเป็นการทำบ่อยๆแต่ไม่ใช่ทุกครั้ง เช่น

      I've lost my key again. I
      'm always losing thing. 
      ฉันทำกุญแจหายอีกแล้ว ฉันทำของหายบ่อย  ( แต่ไม่ได้หายทุกครั้ง )
      You'
      re always watching television. You should do something more active.
    คำกริยาที่ไม่สามารถนำมาใช้ในลักษณะ Continuous Tenses ได้   ดูรายละเอียดที่นี่
    3. Present Perfect
    โครงสร้าง   
    Subject + auxiliaryverb ( has,have ) + main verb ( past participle )
    ประธาน + กริยาช่วย (has,have) + กริยาหลักช่อง 3
    ดังตัวอย่าง
     
    ประธาน
    กริยาช่วย
     
    กริยาหลัก
     
    +    บอกเล่า
    I
    have
     
    seen
    this movie.
    +   บอกเล่า
    You
    have
     
    eaten
    mine.
    -    ปฏิเสธ
    She
    has
    not
    been
    to Rome.
    -    ปฏิเสธ
    We
    have
    not
    played
    football.
    ?   คำถาม
    Have
    you
     
    finished?
     
    ?  คำถาม
    Have
    they
     
    done
    it?
    การใช้
    • ใช้แสดงการเปลี่ยนแปลงของเหตุการณ์

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น